Featured Posts Coolbthemes

Category 3

    ?max-results="+numposts3+"&orderby=published&alt=json-in-script&callback=recentarticles7\"><\/script>");

Category 4

?max-results="+numposts2+"&orderby=published&alt=json-in-script&callback=recentarticles6\"><\/script>");

Blogroll

กดไลค์ = 1 กำลังใจ คลิกที่ว่างหรือกดกากบาทข้างล่างเพื่อเข้าอ่านข้อมูล หากคลิกแล้วเด้งไม่ต้องตกใจ ที่เด้งเพราะโฆษณาไม่ใช่ไวรัสค่ะ

Powered By | Blog Gadgets

อันตรายมาก!! "พยาธิในช่องคลอด" เผยสังเกตุตัวเองได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้




















อ.พญ.เจนจิต ฉายะจินดา
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
โรคพยาธิในช่องคลอดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้น้อยลงในปัจจุบัน แต่สามารถทำให้เกิดอาการแสบคันในช่องคลอดหรือท่อปัสสาวะที่ค่อนข้างรุนแรง

พยาธิในช่องคลอดสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวที่ชื่อ Trichomonas vaginalis ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงเม็ดเลือดขาว เชื้อนี้มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้เกิดการระคายเคืองมาก สามารถตรวจพบได้ในน้ำอสุจิและน้ำในช่องคลอด จึงถ่ายทอดผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก แต่ไม่ติดต่อโดยการกอดจูบ หรือมีเพศสัมพันธ์โดยใช้มือหรือนิ้วช่วย รวมถึงการใช้ห้องน้ำ ผ้าเช็ดตัว สระว่ายน้ำ จนถึงแก้วน้ำ จาน ชามร่วมกันก็ไม่ติดต่อค่ะ

ในเรื่องอาการ พบว่าผู้ชายมักไม่แสดงอาการ ในขณะที่ผู้หญิง อาการจะค่อนข้างชัดเจน มีตกขาวออกมากและมีสีเหลืองหรือเขียว แสบเวลาปัสสาวะ คันในช่องคลอด ส่วนผู้ชาย จะมีมูกใสออกจากท่อปัสสาวะ ซึ่งไม่ใช่น้ำปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ แสบเวลาปัสสาวะ ปวดที่อัณฑะ และอาจมีการอักเสบที่หนังหุ้มปลายองคชาต แต่อาการอย่างหลังพบได้น้อย

หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งที่กล่าวมา หรือมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดใดชนิดหนึ่ง ควรมารับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้านท่าน ซึ่งแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจภายใน โดยนำตกขาวไปตรวจ รวมถึงตรวจมะเร็งปากมดลูก และหากพบว่าติดเชื้อ ก็ควรตรวจเลือดเพื่อหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น เอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี และซิฟิลิส พร้อมกับเก็บสิ่งส่งตรวจทุกส่วนของร่างกายที่ใช้ในการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ตรวจหาเชื้อในคอ หรือตรวจทางทวารหนัก

อย่างไรก็ดี ไม่มีการตรวจใดให้ผล 100% ดังนั้น หากท่านยังคงมีอาการอยู่ ทั้งที่ผลการตรวจทุกอย่างเป็นลบ แนะนำให้มาตรวจติดตามเพื่อประเมินซ้ำอีกครั้ง ในทางกลับกัน หากท่านไม่มีอาการแต่ผลการตรวจเป็นบวก เนื่องจากคู่ของท่านติดเชื้อ แนะนำให้ท่านรับการรักษาไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง แพทย์จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะโดยเร็วที่สุด เพื่อลดการแพร่เชื้อ ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หลังเริ่มการรักษา แต่มีข้อห้ามคือ ในระหว่างการรักษาห้ามดื่มแอลกอฮอล์


โรคพยาธิในช่องคลอดเป็นโรคที่รักษาได้ง่ายและหายขาด แต่อาจกลับเป็นซ้ำได้ ไม่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก-ไม่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และจะมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เมื่อเป็นโรคนี้ในระหว่างตั้งครรภ์ เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ แต่จะไม่มีการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ทารก

Share this:

 
Copyright © Liceza. Designed by OddThemes