ที่ ปราจีนบุรี จากกรณี เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 59 ที่ผ่านมา นางปภาดา เพียรเจริญ กำนันตำบลเมืองเก่า ได้พานางเอ (นามสมมติ)  อายุ 66 ปี พร้อมด้วย ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นหลานสาว พักอาศัยอยู่บ้านในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.วิฑูรย์ วงศ์ใหญ่ พนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี  จังหวัดปราจีนบุรี
นาง เอ ผู้เป็นย่า เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นได้เห็นอาการผิดปกติของ ด.ญ.เก๋ ซึ่งเป็นหลานสาว และเป็นลูกสาวคนเดียวของนายเอก (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของตน โดยด.ญ.เก๋ กำลังเรียนอยู่ชั้น ม. 1 พักหลังมีอาการผิดปกติมีลักษณะรูปร่างอ้วนขึ้นคล้ายคนตั้งท้อง จึงได้เรียกหลานมาสอบถามหาความจริงแต่หลานสาวไม่ยอมรับ
จนกระทั่งเวลา ผ่านไปท้องเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน ความลับก็ถูกเปิดเผยขึ้น โดย ด.ญ.เก๋ กล่าวว่า ได้ถูกพ่อคือนายเอก บังคับข่มขืนหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียนทุกวันๆ ละ 1 -2 ครั้งภายในบ้าน หลังจากที่ข่มขืนแล้วยังบังคับไม่ให้ไปกับบอกกับย่า เหตุเกิดมาตั้งแต่ก่อนเข้าพรรษาเมื่อ ปี 58 หลังจากที่ทราบข่าวจึงเรียกนายเอก มาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เจ้าตัวไม่พูดอะไรและเดินหนีไป จนกระทั่งมีชาวบ้านทนดูไม่ไหวจึงแจ้งตำรวจให้มาจับ
นางเอ ยังเปิดเผย อีกว่า  ตนมีฐานะยากจนต้องทำงานรับจ้างทั่วไป มักจะกลับเข้าบ้านมืดคว่ำทุกวัน ส่วนด.ญ.เก๋ ถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เล็กๆ หลังจากติดคุกคดียาเสพติดที่จังหวัดระยองและกำลังต้องท้องได้ 2 เดือน จนกระทั่งคลอดในคุก จากนั้นตนได้มาเลี้ยงดูจนถึงปัจจุบัน  ส่วนนายเอก ซึ่งเป็นพ่อต้องคดียาเสพติดเหมือนกัน  จากนั้นตนได้เลี้ยงดูหลานและส่งเรียน จนกระทั่งพ่อของเด็กพ้นโทษออกมาอยู่บ้านด้วย จนกระทั่งมาก่อคดีข่มขืนลูกสาวในไส้จนตั้งท้องได้ 8 เดือน
ด้าน ร.ต.อ.วิฑูรย์ วงศ์ใหญ่ พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เบื้องตนได้สอบถาม เด็กหญิงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยังไม่ให้การใดๆ และยังอยู่ในอาการเสียใจและร้องไห้ตลอดเวลา เบื้องต้นทราบว่า หลังจากที่เลิกเรียนก็อยู่บ้านกับพ่อตามลำพังจนกระทั่งถูกพ่อบังคับขืนใจและ ข่มขืนเรื่อยมาจนกระทั่งตั้งท้องได้ 8 เดือน จากนั้นจึงนำตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพื่อหาหลักฐานออกหมายจับดำเนินคดีพ่อที่ข่มขืนลูกสาวต่อไป
ส่วนนาย เอก เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเด็กเป็นผู้สืบสันดารอยู่ในความปกครองดูแลของเราด้วย ซึ่งโทษหนัก เบื้องต้นได้ส่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกหาข่าว  และเฝ้าดูแลที่บ้านเพื่อจะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ล่าสุด เมื่อเวลา 00.30 น.ของวันที่ 12 มีนาคม พ.ต.ท.ปาพจน์ ศรีทองเพียร สารวัตรป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี จำนวนหนึ่ง หลังจากที่สืบทราบว่านายเอก (นามสมมติ) ผู้ต้องหา ได้หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณแค้มป์คนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง จึงเข้าทำการจับกุม และจากการสอบสวนเบื้องต้น ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จึงนำตัวไปฝากขังที่ศาลก่อน
ด้านนางเอ ย่าของเด็ก หลังจากที่ทราบว่าลูกชายถูกจับกุมแล้ว ได้เดินทางไปที่ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อไปเยี่ยมลูกชาย และได้นำเสื้อผ้า รวมทั้งผ้าห่มไปด้วย พร้อมกับเปิดเผยว่า ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ส่วนหลานสาวที่กำลังตั้งท้องก็คงต้องปล่อยไปตามเวรกรรม ตนจะขอเลี้ยงเองตามมีตามเกิดต่อไป
ต่อมา ร.ต.อ.วิฑูรย์ วงศ์ใหญ่ พนักงานสบสวน สภ.กบินทร์บุรี พร้อมด้วยนางปภาดา เพียรเจริญ กำนันตำบลเมืองเก่า ได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อบันทึกภาพและหาหลักฐานมาประกอบคดี โดยมีเด็กหญิงมาชี้จุดเกิดเหตุบริเวณที่นอนของตัวเอง พร้อมเปิดใจเล่าว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และลูกในท้องก็จะขอเลี้ยงเอง จะไม่ยกให้ใคร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านที่อยู่ในสภาพเก่า มีสังกะสีเป็นฝาบ้าน ดูไม่มีความปลอดภัยเท่าใดนัก หนำซ้ำบริเวณบ้านที่อยู่อาศัยมีกองขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมมาถมกองไว้ด้วย