เด็กหญิงวัย 7 ขวบท้องโตเหมือนตั้งครรภ์ เมื่อแพทย์ตรวจแล้วทำให้แม่ถึงกับตกใจ
เมื่อวานนี้ที่ห้องผู้ป่วย เสี่ยวชุนเด็กหญิงวัย 7 ขวบ สุขภาพฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี ความฝันของเสี่ยวชุนคือ “เมื่อเธอร่างกายแข็งแรงเป็นปกติแล้ว เธออยากจะไปเที่ยวสวนสัตว์”
“คุณหมอคะ ช่วยลูกฉันด้วยค่ะ!”
“ฉันพาลูกไปรักษามาหลายรพ.แล้ว ยาก็ลองกินมาหลายตัวแล้ว หมอบอกว่าลูกสาวฉันอยู่ได้อีก3เดือน และหมอก็ไม่ทำการผ่าตัดให้เพราะก้อนเนื้อนั้นใหญ่เกินไป” คำพูดของจางเกายี่แม่
ของเสี่ยวชุนซึ่งในมืออุ้มเสี่ยวชุนไว้ วิ่งกระหืดกระหอบมาหาหมอ
เมื่อปีก่อนเสี่ยวชุนมีอาการปวดท้องจึงไปตรวจที่คลินิคหมอวินิจฉัยว่า
เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่หลังจากทานยาแล้ว อาการปวดท้องกลับมากขึ้นจนทำให้เสี่ยวชุนนอนไม่ได้ แม่จึงพาเธอไปรพ.หมอวินิจฉัยว่าเสี่ยวชุนเป็นใส้ติ่ง คราวนี้แม่เสี่ยวชุนจึงตัดสินใจพาเสี่ยวชุนไปหาหมอที่รพ.ใหญ่ หวังจะทำการผ่าตัด แต่เมื่อตรวจครั้งนี้กลับพบว่าหมอวินิจฉัยผิด ที่จริงแล้วเสี่ยวชุนมีเนื้องอก และตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว ผลจากเนื้องอกทำให้ท้องของเสี่ยวชุนขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
หมอวินิจฉัยว่าเสี่ยวชุนเป็นเนื้องอกในไตชนิดเฉียบพลัน!
แต่หมอไม่สามารถทำการผ่าตัดให้ได้ทันทีเพราะเนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก การผ่าตัดจะมีความเสี่ยงสูงซึ่งอันตรายต่อชีวิตเสี่ยวชุนมาก หมอจึงได้แนะนำให้ฉายแสงเพื่อลดขนาดของเนื้องอกลง 40%แล้วจึงทำการผ่าตัด
เสี่ยวชุนทำการฉายแสงถึง 5 ชั่วโมง
เธอพักฟื้นราวหนึ่งเดือน แล้วจึงเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาชิ้นเนื้องอกออก
ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า เนื้องอกของเสี่ยวชุนมีขนาดใหญ่มากลามไปทั่วบริเวณหน้าอกด้ายซ้าย ทำให้มีกระทบถึงระบบการหายใจ
“ถึงแม้การผ่าตัดครั้งนี้จะไม่โดนจุดอวัยวะสำคัญ แต่ก็กินพื้นที่ขนาดใหญ่ในร่างกาย ซึ่งในการผ่าตัดครั้งนี้เสี่ยวชุนต้องให้เลือดถึง2000ซีซี เพื่อทดแทนเลือดที่เสียไป ซึ่งเกือบจะเท่ากับเปลี่ยนถ่ายเลือดทั้งร่างกายเลย แต่โชคดีมากที่การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี”
ในระหว่าง5ชั่วโมงที่เสี่ยวชุนผ่าตัดอยู่นั้น แม่ของเสี่ยวชุนกระวนกระวายไม่เป็นอันทำอะไร ได้แต่ภาวนาให้ลูกสาวปลอดภัย
เนื้องอกของเสี่ยวชุนนั้นอยู่มีในไตตั้งแต่กำเนิด ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลว่า แต่ละปีมีเด็กป่วยเป็นเนื้องอกแบบเดียวกับที่เสี่ยวชุนเป็นถึง 20 ราย แนะนำผู้ปกครองดูแลบุตรหลานหากมีอาการน่าสงสัยให้พาลูกไปตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะเมื่อทำการรักษาได้เร็ว ผู้ป่วยจะมีโอกาสรักษาหายถึง 80-90%
ที่มา : สำนักข่าวไทย
